คำเตือน!!! เมื่อกรุงเทพฯจะจมน้ำ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์กรการกุศลเพื่อการพัฒนาเอกชน “คริสเตียนเอด” ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษ เรียกร้องเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมนี้ให้รัฐบาลของชาติต่างๆ
ลงทุนใหญ่ในโครงการลดความเสี่ยงจากการจมน้ำเพื่อปกป้องเมืองที่อยู่ชายฝั่งทั่วโลก
จากการที่ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นเป็นภัยคุกคามต่อเขตเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักอาศัยหลายล้านหลังในระดับมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรายงานของคริสเตียนเอดที่ศึกษาเมืองใหญ่ชายฝั่ง
8 เมืองทั่วโลกที่กำลังจะจมนำระบุว่า
มีความเป็นไปได้ว่าระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก
โดยเมืองอย่างกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียที่จมลง 25 เซ็นติเมตรทุกปี
เมืองฮุสตันของสหรัฐอเมริกา นครเซี่ยงไฮ้ของจีน เมืองเลกอสของไนจีเรีย
กรุงมะนิลาของฟิลิปินส์กรุงธากาของบังกลาเทศ
กรุงลอนดอนของอังกฤษและกรุงเทพมหานครที่มีประชากรรวมกันแล้วมากกว่า 100 ล้านคน
เสี่ยงที่จะจมน้ำในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า จากส่วนผสมของการวางผังเมืองที่ย่ำแย่
พายุรุนแรง และหายนะจากภัยพิบัติอื่นๆ

รายงานระบุว่ากรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียที่มีประชากร 10 ล้านคน
และตั้งอยู่บนจุดที่แม่น้ำ 13 สายมาบรรจบกัน
ครึ่งหนึ่งของประชากรยังไม่สามารถเข้าถึงน้ำประปาได้
ทำให้คนจำนวนมากต้องขุดบ่อเพื่อนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ เป็นการสร้างแรกดดันให้กับดิน
ขณะที่เมืองฮุสตัน ในรัฐเทกซัสของสหรัฐมีความพยายามที่จะจัดหาน้ำดื่มให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้พื้นดินจมลงเรื่อยๆ “ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะเห็นได้ทั่วโลกและจากที่คุณเห็นในฤดูร้อนปีนี้
ซีกโลกเหนือของเรามีอุณหภูมิที่อบอุ่นมากผิดปกติ” นางแคต เครเมอร์
หวหน้าฝ่ายสภาพอากาศโลกของคริสเตียนเอดกล่าว และว่า
เมืองใหญ่จำนวนมากในประเทศกำลังพัฒนาเปราะบางเป็นอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ
ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงสำคัญที่เมืองเหล่านี้ต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งยืดหยุ่น
มีหลายชีวิตที่ต้องสูญเสียไปจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดโต่งนางเครเมอร์กล่าวว่า
โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เหมือนอย่างเช่นผนังกั้นแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนอาจช่วยบรรเทาความเสียหายได้
แต่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลชาติต่างๆ ปกป้องระบบป้องกันตนเองตามธรรมชาติด้วย
ที่มา: มติชนออนไลน์
ขอบคุณที่มาของภาพ : อินเทอร์เน็ต


